ปี 2472 ก่อตั้ง เป็นบริษัทประกันภัยบริษัทแรกของคนไทย
ปี 2511 เข้าร่วม เป็นบริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิต
ปี 2532 ย้ายมาอยู่ที่สำนักงานปัจจุบัน อาคารไทยประกันชีวิต รัชดาภิเษก
ปี 2533 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้าน เป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 200 ล้าน มีส่วนล้ำมูลค่าหุ้น 102 ล้าน ธนาคารทหารไทยเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น 10%
ปี 2543 - นำระบบ Policy 400 มาใช้ ทำให้สามารถให้บริการ online ได้ทุกสาขา
- บริษัทหันมาเน้นการจัดจำหน่ายแก่ตลาดลูกค้ารายย่อย เพื่อรองรับนโยบายการขยาย ตลาด รายย่อย
- บริษัทได้พัฒนาปรับปรุงสินค้าบางรายการ ให้เป็นกรมธรรม์สำเร็จรูป เพื่อความสะดวกในการขาย และอำนวยความสะดวกในการทำความเข้าใจของลูกค้าผู้เอาประกัน
- นำกรมธรรม์ประกันกอล์ฟออกสู่ตลาด โดยผู้เล่นกอล์ฟมีความสะดวกสามารถหาซื้อได้ทั่วไป เช่น Pro shop ครูฝึกกอล์ฟ ฯลฯ จนปัจจุบัน บริษัทเป็นผู้นำในการประกันประเภทนี้
- จากนโยบายการรับประกันที่เป็นมาตรฐานติดต่อกันมาหลายปี ประกอบกับความสัมพันธ์กับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารทหารไทย ทำให้บริษัทได้มีส่วนร่วมในการรับงานประกันขนาดใหญ่ของประเทศ เช่น การก่อสร้างอุโมงค์รถใต้ดิน โรงงานผลิตน้ำประปา และโครงการระดับประเทศอีกหลายแห่งจวบจนปัจจุบัน
- บริษัทนำระบบ Outsource มาใช้ในการบริหารจัดการบริการต่างๆ ที่บริษัทไม่มีความชำนาญ และขนาดของธุรกิจยังไม่เพียงพอที่จะดำเนินการเอง เช่น การบริหารสินไหมเครือข่ายโรงพยาบาล การบริการสำรวจภัย ฯลฯ โดยบริษัทมีระบบการตรวจทานคุณภาพของคู่สัญญาอยู่เป็นระยะ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด ขณะเดียวกัน การ Outsource ทำให้บริษัทสามารถขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจได้โดยไม่ต้องประสบปัญหาการลงทุน/ขาดทุน ในเบื้องต้น
ปี 2550 พัฒนาเว็บไซต์องค์กร www.thaipaiboon.com
ปี 2551 พัฒนาระบบสำนักงานตัวแทนออนไลน์ www.TPBnetwork.com เพื่อสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพตัวแทนในการขยายฐานลูกค้า
ปี 2552 เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก “ไพบูลย์ประกันภัย” เป็น “ไทยไพบูลย์ประกันภัย” เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นบริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ปี 2553 พัฒนามาตรฐานการบริการของอู่ซ่อมรถในเครือข่าย ด้วยโครงการ Oneder Garage Oneder Services เพื่อยกระดับคุณภาพบริการด้านระบบการซ่อมและดูแลรักษารถยนต์ให้เทียบเท่าศูนย์บริการ
ปี 2554 ดำเนินโครงการจัดตั้ง “TPB Help Point” เพื่อเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกให้แก่ตัวแทนด้านการตลาดและรับประกันภัย รวมทั้งเป็นศูนย์บริการลูกค้าด้านบริการหลังการขาย
ปี 2555 - แปรสภาพเป็น “บริษัทมหาชน” เมื่อเดือน กรกฎาคม 2555
- เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 600 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
ปี 2556 - พัฒนาระบบ E-Commerce ขายประกันภัยออนไลน์ และชำระเบี้ยผ่านระบบ Payment Gateway
- เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 1,150 ล้านบาท เป็น 1,750 ล้านบาท โดยบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึง 45%
ปี 2557 พัฒนาระบบบริการรับส่งข้อมูลการขาย พร้อมพิมพ์กรมธรรม์ประกันภัยผ่านระบบ Online โดยตรงกับบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโบรกเกอร์ และสำนักงานตัวแทนในการขยายตลาดประกันภัย ด้วยจุดขาย ใหม่ สะดวก ง่าย รวดเร็ว
ปี 2558 - พัฒนาระบบต่ออายุออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและตัวแทน
- มอบบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉินรถเสีย TPB ICE Line สำหรับลูกค้าประกันรถยนต์ชั้น 1 และ TLG2+/3+
ปี 2559 - เปิดบริการผ่อนชำระประกันรถยนต์ชั้น 1 ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน
- เปิดตัวแผนประกันสรรพภัยสำหรับบ้านอยู่อาศัย "TPB บ้านรักษ์สุข" และแผนประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อายุ 35 ปีขึ้นไป "TPB 2พลัส 35แซ่บเวอร์"
ปี 2560 - พัฒนาโมบายแอพเพื่อเป็นเครื่องมือขายสำหรับตัวแทนผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตชื่อ "TPB D-Smart"
- เปิดตัวแผนประกันสรรพภัยสำหรับธุรกิจขนาดย่อม "TPB SME Care" และแผนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล "TPB PA Care4U Plus" ที่พลัสความคุ้มครองให้ครบจนคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม และครอบคลุมทุกพื้นที่ไม่เว้นโซนแดงในภาคใต้
ปี 2561 - เปิดตัว Digital Marketing ทั้งสื่อโซเซียลมีเดีย ทาง เฟสบุ๊คเพจ, ช่องยูทูป และไลน์แอด (@thaipaiboon) รวมทั้งเผยแพร่คลิปวิดีโอ "TPB Check in" เน้นสาระความบันเทิง และ "ประกันภัยเรื่องใกล้ตัว" เน้นสาระความรู้ ทุกเรื่องประกันภัย
|