Home We're TPB เครือข่ายบริการ

การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การประกันภัยรถยนต์

 

ขั้นตอนการแจ้งการเกิดอุบัติเหตุและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
การประกันภัยรถยนต์

ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 0 2246 9635  กด  77  ตลอด 24 ชั่วโมง

ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อรถประกันเกิดอุบัติเหตุ
     1. กรณีสามารถตกลงกันได้และรถคู่กรณีมีการประกันภัย ให้ดำเนินการ ดังนี้
          1.1 กรณีรถคันเอาประกันภัยและรถยนต์ของคู่กรณีมีการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1  และ  สามารถระบุได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการดังนี้
               (ก) ให้ผู้เอาประกันภัยและผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณี กรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อใน “ใบยืนยันการเกิดอุบัติเหตุ” (Knock for Knock Form) ที่บริษัทฯ และบริษัทประกันภัยของคู่กรณีออกให้และต่างฝ่ายต่างส่งมอบ “ใบยืนยันการเกิดอุบัติเหตุ” ให้แก่กัน และสามารถแยกย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ
               (ข)  ผู้เอาประกันภัยนำ “ใบยืนยันการเกิดอุบัติเหตุ” ที่รับจากคู่กรณีมาแจ้งอุบัติเหตุที่บริษัทฯ
               หมายเหตุ:
                    1. การแลก “ใบยืนยันการเกิดอุบัติเหตุ”  ใช้ได้เฉพาะการเกิดเหตุที่ไม่มีบุคคลใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือไม่มีทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (บุคคลอื่นนอกจากรถยนต์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย) ได้รับความเสียหาย
                    2. รถยนต์ที่เอาประกันเป็นรถสี่ล้อที่มีน้ำหนักรถรวมบรรทุกไม่เกิน 3 ตัน  หรือรถที่จดทะเบียนที่นั่งไม่เกิน 15 ที่นั่ง
          1.2 การประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น ( 2, 3, 2+, 3+) ให้ผู้เอาประกันภัยแจ้งให้บริษัทฯ รับทราบ เพื่อพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอุบัติเหตุ
     2. กรณีที่ไม่สามารถตกลงกันได้ หรือ รถยนต์คู่กรณีไม่มีการประกันภัย
          2.1 แจ้งบริษัทฯ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอุบัติเหตุ
          2.2 จดรายละเอียดรถคู่กรณี เช่น ยี่ห้อรถ, ทะเบียนรถ, ชื่อและที่อยู่ของผู้ขับขี่รถคู่กรณี
          2.3 แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่เกิดเหตุเพื่อสรุปผลคดี
     3. กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต
          3.1 ให้รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แล้วแจ้งบริษัทฯ เพื่อดำเนินการ
          3.2 ในกรณีผู้บาดเจ็บไม่ยอมไปโรงพยาบาล และมีการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลให้แจ้งบริษัทฯ เพื่อเจรจาค่าเสียหายกับผู้บาดเจ็บ
          3.3 ในกรณีมีผู้เสียชีวิต ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่เกิดเหตุ และบริษัทฯ ทราบทันที
เพื่อดำเนินการตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุ
     4. กรณีคู่กรณีชนแล้วหลบหนี
          4.1 หากสามารถจดยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนรถคู่กรณีได้ ให้นำรถประกันภัยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี
          4.2 หากไม่สามารถจดหมายเลขทะเบียนรถคู่กรณีได้ ให้นำรถประกันเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่เกิดเหตุแล้วคัดสำเนาบันทึกการแจ้งความของพนักงานสอบสวนไปติดต่อที่บริษัทฯ
     5. เมื่อเกิดอุบัติเหตุและรถถูกยึดไว้ที่สถานีตำรวจ
          5.1 ให้นำสิ่งของที่มีค่าออกจากรถแล้วเก็บรักษาไว้  
          5.2 ในกรณีไม่สามารถนำของมีค่าออกมาได้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีบันทึกรายละเอียดสิ่งของไว้
         5.3 ในกรณีต้องตรวจสภาพรถยนต์ ผู้ขับขี่หรือผู้เอาประกันเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
     6. กรณีผู้ขับขี่ถูกควบคุมตัว เกี่ยวกับอุบัติเหตุ
          ให้แจ้งบริษัทฯทราบทันที เพื่อบริษัทฯ จะได้ดำเนินการประกันตัวผู้ขับขี่ (ในกรณีกรมธรรม์ขยายความคุ้มครองในเรื่องการประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา)
      7. กรณีเคลมแห้ง
          รถประกันประเภท 1 ที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย  เช่น เฉี่ยวเสา กิ่งไม้  ให้นำรถเข้าแจ้งอุบัติเหตุที่บริษัทฯ  หรือนำรถเข้าซ่อมและแจ้งอุบัติเหตุที่อู่ในเครือบริษัทฯ

กรณีรถประกันสูญหาย หรือถูกโจรกรรม
     1. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่เกิดเหตุทันที
     2. แจ้งบริษัทฯ ทันที พร้อมนำส่งสำเนาบันทึกการแจ้งความของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดี
     3. แจ้งหยุดการใช้รถตลอดไป ที่กรมการขนส่งทางบก
     4. ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ที่แจ้งความ เพื่อติดตามผลคดี

การจัดซ่อมรถที่เอาประกันภัย
     1. บริษัทฯ จะจัดซ่อมรถคันเอาประกันให้อยู่ในสภาพปกติโดยอู่ในเครือของบริษัทฯ ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ที่มีการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน เช่น ยางรถ แบตเตอรี่ ฯลฯ ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ บริษัทฯ จะพิจารณาจ่ายตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
     2. ในกรณีผู้เอาประกันภัยนำรถที่เอาประกันไปซ่อมเอง ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งให้บริษัทฯ รับทราบ และดำเนินการ ดังนี้
          2.1 นำส่งใบเสนอราคาค่าซ่อมของอู่ที่ผู้เอาประกันนำรถเข้าซ่อมให้กับบริษัทฯ
          2.2 บริษัทฯ พิจารณาคุมราคาค่าซ่อมตามความเสียหายที่แท้จริง
          2.3 ค่าซ่อมที่นอกเหนือจากที่บริษัทฯ คุมราคา ผู้ขับขี่หรือผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบเอง
          2.4 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนอะไหล่ ผู้เอาประกันภัยจะต้องนำอะไหล่เก่ามาคืนให้กับบริษัท
     3. ในกรณีรถประกันที่ซื้อความคุ้มครองซ่อมห้างให้นำรถประกันเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการพร้อมกับติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัทฯ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และคุมราคาที่ศูนย์บริการ
     4. ก่อนนำรถเข้าซ่อมทุกครั้งควรตรวจสอบสิ่งของในรถ และนำออกจากรถที่จะทำการซ่อม
     5. เมื่อรถซ่อมเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนเซ็นรับ หรือนำรถออกจากอู่
     6. กรณีที่ซ่อมไม่เรียบร้อยให้แจ้งบริษัทฯ ทราบทันที
     7. กรณีที่ท่านนำรถไปซ่อมเอง  บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบในกรณีอู่ซ่อมไม่เรียบร้อย

การจัดซ่อมรถคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก
     ในกรณีคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก นำรถไปซ่อมจะต้องแจ้งให้บริษัทฯ รับทราบ และดำเนินการ ดังนี้
    1. นำส่งใบเสนอราคาค่าซ่อมของอู่หรือศูนย์บริการ ที่คู่กรณีนำรถเข้าซ่อมให้กับบริษัทฯ
    2. บริษัทฯ พิจารณาคุมราคาค่าซ่อมตามความเสียหายที่แท้จริง
    3. ค่าซ่อมที่นอกเหนือจากที่บริษัทฯ คุมราคา คู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบเอง
    4. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนอะไหล่ คู่กรณีจะต้องนำอะไหล่เก่ามาคืนให้กับบริษัทฯ
    5. บริษัทฯ ไม่รับผิดกรณีทรัพย์สินภายในรถเกิดการสูญหาย รวมทั้ง บริษัทฯไม่รับผิดชอบในกรณีอู่ซ่อมไม่เรียบร้อย   

การจ่ายค่าสินไหมทดแทน
     1. ค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
          1.1 ค่ารักษาพยาบาล  ค่าปลงศพเบื้องต้น ทำจ่ายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
          1.2 ค่าชดเชยรายวัน ทำจ่ายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
          1.3  ค่ารักษาพยาบาลตามใบเสร็จรับเงิน/ค่าปลงศพ ส่วนเกินเบื้องต้นทำจ่ายภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
          1.4 ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต และค่าสินไหมทดแทน ทำจ่ายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วนและเจรจาตกลงค่าสินไหมทดแทนเสร็จสิ้นแล้ว
          เอกสารประกอบการตั้งเบิกค่าสินไหมทดแทน
          1. กรณีบาดเจ็บ / ค่าชดเชยรายวัน
               - ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
               -  ใบรับรองแพทย์
               -  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
               -  สำเนาทะเบียนบ้าน
         2. กรณีเสียชีวิต
               -  สำเนามรณบัตร
               -  สำเนาใบรายงานชันสูตรพลิกศพ
               -  สำเนาบันทึกการแจ้งความของพนักงานสอบสวน
               -  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และ สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิต
               -  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และ   สำเนาทะเบียนบ้านทายาทโดยธรรมผู้เสียชีวิต
         3. กรณีเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลในอนาคตและค่าสินไหมทดแทน และเอกสารประกอบการเจรจา
             - ใบรับรองแพทย์
             - เอกสารรับรองรายได้
     2. ค่าสินไหมทดแทนรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1, 2, 3, 2+ และ 3+)
          1. รถประกัน/คู่กรณี เข้าซ่อมอู่ในเครือ บริษัทฯ ทำจ่ายค่าซ่อมให้กับอู่โดยตรง          
          2. รถประกัน/คู่กรณี นำรถไปดำเนินการจัดซ่อมเองให้ส่งใบเสนอราคาค่าซ่อมเพื่อคุมราคาค่าซ่อม ทำจ่ายภายใน 10 วัน นับแต่วันที่เจรจายุติ หรือวันที่ส่งมอบใบเสร็จรับเงินค่าซ่อม หรือนำรถ
ที่ซ่อมเสร็จมาตรวจสภาพ
          3. รถประกันที่ซื้อความคุ้มครองซ่อมห้างให้ส่งใบเสนอราคาค่าซ่อม หรือ นัดหมายเจ้าหน้าที่บริษัทฯ เพื่อตรวจสอบความเสียหายและคุมราคาที่ศูนย์ซ่อม ทำจ่ายเมื่อรถซ่อมเสร็จ (กรณีศูนย์ยอมรับค่าซ่อมจากทางบริษัทฯ) หรือทำจ่ายคืนผู้เอาประกันภัยภายใน 10 วันนับแต่วันที่ส่งมอบใบเสร็จรับเงินค่าซ่อมให้บริษัทฯ (กรณีที่ผู้เอาประกันภัยสำรองจ่าย)
          4. รถประกันเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ทำจ่ายภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วนพร้อมนำส่งเอกสารประกอบการตั้งเบิกค่าสินไหมทดแทน ดังนี้
               - ทะเบียนรถพร้อมลงนามผู้ถือกรรมสิทธิ์
               - ชุดโอนกรรมสิทธิ์ และหนังสือมอบอำนาจของกรมการขนส่งทางบกพร้อมลงนามผู้โอนและผู้มอบอำนาจ
               - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
               - หนังสือรบรองการจดทะเบียน กรณีเจ้าของรถเป็นนิติบุคคล
               - ชุดกุญแจสำรอง
               - กรณีรถยนต์ติดสัญญาเช่าซื้อ ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ให้เช่าซื้อโดยบริษัทผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้จัดทำเอกสาร
          5. รถประกันสูญหาย หรือ ถูกโจรกรรม (ประเภท 1, 2, และ2+ ) ทำจ่ายภายในระยะเวลาที่ประกาศหรือกฎหมายกำหนด (15 วัน หรือ 45 วัน แล้วแต่กรณี) นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน  ดังนี้

               - สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี
               - ทะเบียนรถพร้อมลงนามผู้ถือกรรมสิทธิ์ และแจ้งหยุดการใช้รถที่กรมการขนส่งทางบก
               - ชุดโอนกรรมสิทธิ์ และ หนังสือมอบอำนาจ ของกรมการขนส่งทางบกพร้อมลงนามผู้โอน และผู้มอบอำนาจ
               - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
               - หนังสือรับรองการจดทะเบียน กรณีเจ้าของรถเป็นนิติบุคคล
               - ชุดกุญแจสำรอง
               - กรณีรถยนต์ติดสัญญาเช่าซื้อ ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ให้เช่าซื้อโดยบริษัทฯผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้จัดทำเอกสาร
          6. กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บ/เสียชีวิต (ส่วนเกินพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทำจ่ายภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
               หมายเหตุ:  ใช้เอกสารประกอบการตั้งเบิก เหมือนกับการตั้งเบิกค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติ  คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
          7. กรณีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทำจ่ายภายใน 10 วัน นับจากได้เจรจายุติค่าเสียหาย

การแจ้งผลการพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
          กรณีบริษัทฯ ปฏิเสธการชดใช้เงิน หรือค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยหรือไม่สามารถตกลง     กำหนดจำนวนเงิน หรือค่าสินไหมทดแทนได้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือ ผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้วแต่กรณีรับทราบเป็นหนังสือ โดยระบุข้อเท็จจริงและ  เหตุผลของการปฏิเสธพร้อมข้อกฎหมายหรือเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือชี้แจงเหตุที่ไม่อาจ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนที่เรียกร้อง

ดาวน์โหลดเอกสารขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ประกันภัยรถยนต์